Showing posts with label news. Show all posts
Showing posts with label news. Show all posts

ด่วน!! เตือนสึนามิ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4

ด่วน!! เตือนสึนามิ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 (ข่าว ตปท.)


 วันที่ 20 ก.ค. เอพี รายงานว่า ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกออกประกาศเตือนภัยสึนามิ บริเวณคาบสมุทรคัมชัตกา ประเทศรัสเซีย หลังเกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้ง ในทะเลใกล้พื้นที่ดังกล่าว




ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.4 มีศูนย์กลางลึก 20 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองเปโตรปาฟลอฟสค์–คัมชัตสกี ไปทางตะวันออก 144 กิโลเมตร



โดยเมืองดังกล่าวนี้มีประชากรราว 180,000 คน และก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่นาที เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ในบริเวณใกล้เคียง ล่าสุด ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในขณะนี้




แผ่นดินไหวครั้งแรกเกิดขึ้นในเวลา 18.02 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.02 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยมีขนาด 5.0 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางลึก 33 กิโลเมตร ห่างจากเปโตรปัฟลอฟสก์–คัมชัตสกีไปทางตะวันออกราว 130 กิโลเมตร.



แผ่นดินไหวครั้งที่ 2 ในเวลา 18.28 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.28 น. ตามเวลาประเทศไทย) มีขนาด 6.7 แมกนิจูก ศูนย์กลางลึก 15 กิโลเมตร


แผ่นดินไหวครั้งที่ 3 ในเวลา 18.49 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.49 น. ตามเวลาประเทศไทย) แผ่นดินไหวมีขนาดถึง 7.4 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางลึกลงไป 20 กิโลเมตร และหลังจากนั้นยังคงเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องอีกหลายครั้ง โดยมีขนาด 5.2-6.7 แมกนิจูด

เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 2.9 อ.แม่ฟ้าหลวง

 เวลา 00.22 วันที่ 20 ก.ค. 68 ตามเวลาประเทศไทย เกิดเหตุแผ่นดินไหวโดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พิกัด 20.249 องศาเหนือ 99.649 องศาตะวันออก มีความแรงขนาด 2.9 แมกนิจูด ที่ความลึก 2 กม.





มีรายงานว่าจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว มีประชาชนในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยว 1 ชั้นสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผลกระทบอื่น

เอาแล้วไง กัมพูชา เคลื่อนไหวล่าสุด หลังไทยเตรียมฟ้องศาลโลกปมทุ่นระเบิด

เอาแล้วไง กัมพูชา เคลื่อนไหวล่าสุด หลังไทยเตรียมฟ้องศาลโลกปมทุ่นระเบิด


จากกรณีที่ทหารไทยเตรียมดำเนินการฟ้ององค์การสหประชาชาติ (UN) เนื่องจากทหารฝั่งกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา หรืออนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในพื้นที่ของประเทศไทย จนทำให้เจ้าหน้าทีทหารของทาการไทยได้รับบาดเจ็บถึง 3 นาย หลังจากมีการพิสูจน์หลักฐานพบว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่นั้น


ล่าสุด วันที่ 20 ก.ค. 2568 นายเฮง รัตนะ ผู้แทนรัฐบาลกัมพูชาศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก HENG ratana ถึงความเคลื่อนไหวของไทย โดยระบุว่า หลังจากทหารไทยเหยียบกับทุ่นระเบิด ทหาร 1 นายถูกตัดขา และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 นาย ตามสื่อรายงานข่าวในเชิงลบจำนวนมาก ที่พยายามทำให้กัมพูชาเสื่อมเสียชื่อเสียง



รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย ได้ร้องขอให้กัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิดเก่า ขณะที่ผู้บัญชาการแนวหน้าของไทยบางคนกล่าวว่า ทุ่นระเบิดเหล่านั้นเป็นของเหลือจากสงคราม ส่วนองค์กร NGO ด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและกระทรวงการต่างประเทศของไทยกล่าวว่า ทุ่นระเบิดเหล่านั้นเพิ่งวางใหม่และพร้อมที่จะฟ้องร้องกัมพูชาต่อสหประชาชาติ


มีคนถามความเห็นผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมขอบอกว่า โปรดดูประเด็นทางกฎหมายของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดระหว่างประเทศ ในมาตรา 5 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของตนก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ



เห็นได้ชัดว่า มีรูปภาพมากมายบนโซเชียลมีเดียในไทยที่เผยแพร่ภาพทหารไทยกำลังวางทุ่นระเบิดใหม่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลไทยและองค์กรเก็บกู้ทุ่นระเบิดในไทย ได้ดำเนินการสืบสวนหรือร้องเรียนต่อผู้นำไทยเพื่อขอใช้มาตรการป้องกันแล้วหรือยัง? ส่วนกรณีที่ไทยต้องการฟ้องร้องกัมพูชาต่อสหประชาชาตินี้ถือเป็นเรื่องดี ดังนั้นขอให้ฟ้องร้องกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพราะศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นศาลของสหประชาชาติ


ระวัง! หมอมาเตือนเอง ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด ชี้คนมากมายใช้กันในปัจจุบัน แนะนำให้โยนทิ้งไปซะ

 ระวัง! หมอมาเตือนเอง ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด ชี้คนมากมายใช้กันในปัจจุบัน แนะนำให้โยนทิ้งไปซะ (ข่าวตปท.)

ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่หลาย ๆ บ้านจะประสบปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นตกค้าง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากอาหารที่อบอวลข้ามคืน หรือแม้กระทั่งกลิ่นของสัตว์เลี้ยง เพราะฉะนั้นหลายคนจึงแก้ปัญหาด้วยการลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ปรับอากาศมาใช้ในบ้านเรือน เพื่อให้มั่นใจว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์จะหายไปและมีความหอมสดชื่นเข้ามาแทน


แต่อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.เปดี มิร์ดามาดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่มักจะออกมาให้คำแนะนำด้านสุขภาพผ่านแอปฯ TikTok ได้เตือนถึงของภายในครัวเรือนชิ้นหนึ่ง ที่มีความเป็นพิษมากที่สุดในบ้าน ซึ่งของดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายใช้กันเป็นประจำทุกวัน และเขาแนะนำว่าควรจะหยุดใช้และโยนมันทิ้งไปทันที



โดยเรื่องนี้มีที่มาจาก เว็บไซต์ต่างประเทศ Unilad รายงานว่า ในคลิปหนึ่งของ ดร.เปดี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 เขาได้ออกมาอธิบายว่า ของที่คนใช้กันในครัวเรือนบางอย่าง อาจเชื่อมโยงกับอาการคันตาหรืออาการภูมิแพ้ ในกรณีเลวร้ายที่สุด ยังทำให้เกิดอาการหอบหืดรุนแรงอีกด้วย ซึ่งของชิ้นนั้นก็คือ น้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊ก ที่ผู้คนใช้กันโดยทั่วไปในสหรัฐฯ



เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำนวนมาก มีสารเคมีที่เป็นพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านการหายใจ ซึ่งอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็คือวิธีการง่ายและเร็วที่สุดที่จะนำสารพิษเข้ามาสู่ร่างกายของเรา หากมีน้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊กใด ๆ ในบ้านหรือรถ ให้ปิดและโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนในบ้านมีอาการภูมิแพ้หรือหอบหืด



นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Indoor Doctor มีผลการศึกษาวิจัย พบว่า มีน้ำหอมปรับอากาศถึง 86% ที่มีสารพาทาเลต (phthalates) ซึ่งอาจขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และทำให้เกิดปัญหาด้านการสืบพันธุ์ แถมน้ำหอมปรับอากาศทั่ว ๆ ไป ก็มักจะมีฟอร์มาลดีไฮด์ ที่เชื่อมโยงกับมะเร็งในจมูกและลำคอ รวมถึงมีสาร VOCs ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดในเด็ก



อย่างไรก็ตาม ดร.เปดี ยังย้ำอีกว่า ใครที่ยังใช้น้ำหอมปรับอากาศแบบนี้ ให้ทำเพื่อตัวเองและครอบครัวด้วยการโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากภายในบ้านมีโรคหอบหืดหรือปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ พร้อมกันนั้น ดร.เปดี ยังแนะนำทางเลือกอื่นๆ สำหรับแก้ปัญหากลิ่นในบ้าน คือ ให้หันมาใช้เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหยแทนนั่นเอง


ข้อมูล Unilad


ด่วน! ไฟไหม้โรงงาน จ.บุรีรัมย์ ยังไม่สามารถคุมเพลิงไว้ได้

 วันที่ 20 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.30 น. คืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัทนอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 398 หมู่ 4 ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ริมถนนสาย24 โชคชัย - เดชอุดม



รถดับเพลิงจากหลายพื้นที่กว่า 20 คันระดมไปให้การช่วยเหลือ แต่เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากจุดที่เพลิงไหม้เป็นโกดังเก็บยางพาราเพื่อเตรียมส่งออก รถดับเพลิงจึงทำได้แค่ ไม่ให้ลุกลามต่อไปยังคลังน้ำมันและอาคารอื่น




ผ่านไปกว่า 6 ชม.ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ภาพตอนเช้าวันนี้ กลุ่มควันไฟได้ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าลอยไปไกลกว่า 10 กม.ขณะไฟยังลุกไหม้ต่อยังไม่มีท่าทีที่จะยุติลงได้ ท่ามกลางรถดับเพลิงยังระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง

นายจำเริญ แหวนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า จากรายงานที่ได้รับจุดที่เพลิงไหม้ เป็นโกดังเก็บสินค้าเพื่อรอส่งจำหน่าย ซึ่งเป็นยางก้อนและยางแท่งติดไฟได้ดีทำให้ไม่สามารถดับไฟได้ลำบาก

ส่วนควันไฟที่ลอยออกไปเท่าที่ทราบ ไม่ใช่ควันจากสารเคมีไม่เป็นอันตรายต่อคน ตอนนี้ได้กำชับให้ผู้นำชุมชนที่ควันลอยไปถึง ให้สวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ก่อน ส่วนค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ รวมถึงสาเหตุเป็นเพราะอะไรที่ยังต้องสอบสวนต่อ

สำหรับโรงงานแห่งนี้เคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2563 ครั้งนั้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าหลายเท่าตัว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน