เจ้าอาวาสวัดดังยอมรับแล้ว! เป็นกิ๊กเมียชาวบ้าน

 จากกรณีชาวบ้านใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียน ประธานชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้ช่วยกำจัดอลัชชี ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง อายุประมาณ 60 ปี แอบเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน โดยมีการส่งข้อความสุดสยิวถึงกัน และฝ่ายหญิงจะเรียกเจ้าอาวาสว่า คุณสามี ในขณะที่ชาวบ้านรอบวัดจับกลุ่มวิพากวิพากวิจารณ์ เตรียมรวมตัวประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสหื่นกามรูปดังกล่าว ล่าสุดเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่ตกเป็นข่าวฉาว ได้หลบหนีออกจากวัด และปิดเครื่องโทรศัพท์เงียบหายไป ต่อมาทราบว่าไปสึกจากพระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



ที่วัดหนองจิก ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พบกับพระครูโกศลรัตนธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองจิก เจ้าคณะตำบลกิติมาศักดิ์ เจ้าคณะผู้ปกครองพื้นที่เขต ต.นางหลง-ขอนหาด ซึ่งเป็นผู้ประกอบพิธีลาสิขาให้หลวงเอียด พระที่ตกเป็นข่าวฉาว โดยพบพระครูโกศลรัตนธรรม นั่งคุยบกับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบอดีตหลวงเอียด



โดยพระครูโกศลรัตนธรรม กล่าวว่า อดีตหลวงเอียด มาขอลาสิขา จึงได้สอบถามรายละเอียดทุกอย่างตามที่เป็นข่าว ซึ่งหลวงเอียดก็รับสารภาพว่าเป็นความจริง โดยยืนยันว่า ๆ ได้ประกอบพิธีสึกให้ถูกต้องแล้ว หลังจากนั้น สมีเอียด ก็รีบเดินทางออกจากวัดทันที อย่างไรก็ตามในการสึกไม่ได้มีการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่ยืนยันว่าสึกแน่นอน โดยอดีตหลวงเอียด เดินทางมากับ “บ่าวทุม” คนขับรถ ก่อนสึกได้ให้คนขับรถไปซื้อเสื้อผ้าชุดฆราวาสมาเตรียมไว้ หลังสึกสมีเอียดก็สวมใส่ชุดฆราวาส แล้วออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้รายงานให้เจ้าคณะตามลำดับชั้นจนถึงเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (มหานิกาย) แล้ว


อย่างไรก็ตามได้แนะนำสั่งสอนว่าสิ่งใดที่ทำผิด ก็ยอมรับผิด อย่าได้ไปสร้างสถานการณ์ใด ๆ ขึ้นมาอีก เพราะเรื่องมั่วสีกาไม่มีใครยอมรับได้ และมีชาวบ้านจำนวนมากเข้าใจว่าเอาเงินวัด เงินทำบุญที่ชาวบ้านร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ และเสนาสนะในวัด ไปให้สีกาคนดังกล่าว ซึ่งอดีตหลวงเอียด ยืนยันว่ารับสารภาพเรื่องเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินวัดไปให้สีกาแต่อย่างใด แต่เป็นเงินส่วนตัวของท่าน และให้ไม่มาก ซึ่งในส่วนของเงินที่ชาวบ้านทำบุญให้กับวัดท่านไม่แตะต้อง และนำไปพัฒนาวัดตามประสงค์ของญาติโยมทุกบาททุกสตางค์


ด่วน! พบร่างหนุ่มลอยเสียชีวิต กลางคลองคูพาย ข้างโรงพยาบาล

 เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบร่างชายลอยคว่ำหน้าภายในคลองคูพาย ฝั่งถนนราชดำเนิน ข้างโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ต.ในเมือ อ.เมืองนครศรีธรรมรช หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรรโรงพยาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊ง รีบเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุภายในคลองพบศพชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 45 - 50 ปี สภาพศพอืดลอยคว่ำหน้าในคลอง ในชุดสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกงเกงสั้นสีดำ จึงนำศพมาชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน สอบสวนชาวบ้านที่พบศพ แจ้งว่า ก่อนจะพบศพตนนำแหมาทอดหาปลาในคลองคูพาย ระหว่างทอดแห พบวัตถุคล้ายมนุษย์ ลอยผ่านหน้า จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นศพคนตาย จึงรีบแจ้งตำรวจตรวจสอบ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ในร่างกายไม่พบเอกสารหลักฐาน แต่จากการสอบถามชาวบ้านละแวกเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า รูปพรรณ ผู้เสียชีวิตคล้ายคนเร่ร่อนที่ชอบนั่งอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางริมถนน ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มานัก ส่วนสาเหตุเสียชีวิตยังไม่แน่ชัด จึงนำศพส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุเสียชีวิต และหาอัตลักษณ์ตัวบุคคล เพื่อติดตามหาญาติมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงาน

ยินดีด้วย 1 ชาติ การันตีรอดตกชั้น VNL 2025 แล้ว

 ยินดีด้วย 1 ชาติ การันตีรอดตกชั้น VNL 2025 แล้ว



การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2025 สัปดาห์ที่ 3 ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค. 68 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการพบกันหว่าง เจ้าภาพ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ดวลเดือด ทีมชาติแคนาดา




ผลปรากฏว่า แคนาดา แพ้ สหรัฐอเมริกา ไป 2-3 เซต 24-26, 25-23, 25-20, 21-25, 17-19

ทำให้ แคนาดา ได้เพิ่ม 1 คะแนน รวมเป็น 8 คะแนน การันตีรอดตกชั้นแน่นอนแล้ว โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันที่จะเจอกับ ทีมชาติไทย ในคืนนี้ เพราะ แคนาดา มี เซตได้ เยอะกว่ามาก


ครอบครัว 3 ชีวิต ป่วยมะเร็งตับ ลูกก็ไม่รอด แพทย์ชี้ “นักฆ่า” คือสิ่งที่เก็บไว้ในตู้เย็น

 รู้หรือไม่ว่า… ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่น้อยคนให้ความสนใจเมื่อเก็บอาหารในตู้เย็น สามารถนำไปสู่โรคมะเร็งและโรคอันตรายอื่นๆ อีกมากมาย


ดังเช่นกรณีคุณหลิน (นามสมมุติ) อายุ 40 กว่าปี อาศัยอยู่ที่เมืองเหลียวหนิง ประเทศจีน รู้สึกตกใจมากเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับหลังจากไปพบแพทย์ผิวหนัง สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือเมื่อสมาชิกที่เหลืออีกสองคนในครอบครัว คือภรรยาและลูกชายของเขา ก็เผชิญกับโรคร้ายนี้พร้อมกัน เพียงเพราะความผิดพลาดในการเก็บอาหารในตู้เย็น

โดยคุณหลินเล่าว่า เขาสังเกตได้ว่าผิวบนร่างกายของตัวเองเหลือง มีอาการคัน รวมทั้งมีรอยจุดสีแดงๆ จำนวนมาก ภรรยาและลูกชายของเขาก็มีอาการคล้ายๆ กัน แต่อาการเบากว่า ทั้งครอบครัวจึงคิดว่าน้ำประปาในอพาร์ตเมนต์อาจจะมีปัญหา ซึ่งผ่านมาหลายเดือนที่แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถหาบ้านเช่าใหม่ที่เหมาะสมได้ ดังนั้น จึงทำได้เพียงซื้อยามาทาเองเท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ผลมากนักก็ตาม

เนื่องจากงานของคุณหลินต้องพบปะลูกค้าจำนวนมาก ภรรยาจึงแนะนำให้เขาไปพบแพทย์ผิวหนังก่อน โดยไม่คาดคิดว่าหลังจากแพทย์ตรวจเขาแล้ว จู่ๆ ก็ย้ายเขาไปที่แผนกตับและตับอ่อนทันที ก่อนทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ แล้วจึงทราบผลว่าเป็นมะเร็งตับระยะที่ 3

คุณหลินรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่สูบบุหรี่ และไม่ค่อยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกระทั่งแพทย์ถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินของเขา จึงค้นพบ “นักฆ่า” 3 รายที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้ในตู้เย็น ได้แก่ ถั่วขึ้นรา ผักใบเขียวที่ทิ้งไว้ข้ามคืน และเห็ดหูหนูแช่น้ำเป็นเวลานาน

ปรากฏว่าครอบครัวคุณหลินมักมีนิสัยชอบทำอาหารล่วงหน้าตอนกลางคืน โดยแช่ตู้เย็นแล้วเอาไว้แล้วค่อยหยิบไปทานที่ทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้น อีกทั้งอาหารที่เหลือ รวมถึงผักใบเขียว มักจะถูกเก็บไว้ในตู้เย็นเสมอ เพื่อที่จะรับประทานได้ 2-3 วันเว้นแต่จะมีกลิ่นเหม็นแล้วจึงโยนทิ้งไป ซึ่งการแช่ผักไว้ค้างคืนในตู้เย็น จะผลิตและเพิ่มสารอันตรายที่เรียกว่าไนไตรต์

แพทย์กล่าวว่า ถึงแม้ปริมาณไนไตรต์นี้จะดูเหมือนไม่อันตราย แต่หากรับประทานผักที่ค้างคืนเป็นประจำ ก็จะค่อยๆ สะสม และเป็นอันตรายต่อสุขภาพในที่สุด เพราะเมื่อไนไตรท์เข้าสู่ร่างกายจะรวมตัวกับโปรตีน เกิดเป็นไนโตรซามีนซึ่งเป็นอันตรายต่อตับอย่างมาก เมื่อเวลาผ่านไปสามารถลดการทำงานของตับ ทำลายเซลล์ตับ และในระยะยาวเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งตับ ไม่ต้องพูดถึงวิตามินและโฟเลตในผักใบเขียว ก็มีความไวต่ออุณหภูมิสูงเช่นกัน เมื่อนำไปอุ่นซ้ำครั้งที่ 2 สารเหล่านี้จะถูกทำลายและสร้างสารพิษซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพตับและระบบย่อยอาหาร

ไม่เพียงเท่านั้น ภรรยาคุณหลินยังมักจะทำอาหารจากเห็ดหูหนู เพราะคิดว่าดีต่อสุขภาพ แต่เนื่องจากชีวิตประจำวันที่ยุ่งเป็นทุนเดิม เธอจึงมักจะนำเห็นไปแช่น้ำในปริมาณมากในแต่ละครั้ง หรือแค่ใส่น้ำลงในภาชนะที่ปิดสนิทแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อสามารถหยิบไปใช้ได้ทันทีที่ต้องการ


เห็ดหูหนูแห้งนั้นไม่เป็นพิษ แต่หากแช่ไว้นานเกินไป โดยเฉพาะนานกว่า 8 ชั่วโมง หรือข้ามคืน เห็ดพวกนี้อาจเสื่อมสภาพได้ง่าย ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้แบคทีเรียที่เป็นอันตราย เจริญเติบโตและแพร่พันธุ์สารพิษที่ก่อให้เกิดพิษ ซึ่งรวมถึงสารพิษที่ทำลายตับ และสารก่อมะเร็งชั้นนำที่ WHO เตือนอย่าง “อะฟลาทอกซิน”


อะฟลาทอกซิน ยังพบได้ง่ายในถั่วที่ครอบครัวคุณหลินเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน เนื่องจากการเงินของเขาจะไม่ค่อยมีมากนัก แต่ยังคงต้องการที่จะมีสุขภาพที่ดี จึงซื้อถั่วทุกชนิด ทั้งวอลนัท อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แล้วเอาเข้าตู้เย็นเพื่อนำมากินทีละน้อย สภาพแวดล้อมที่ชื้นและติดเชื้อง่ายทำให้ถั่วเปลี่ยนรสชาติอย่างรวดเร็ว และแม้กระทั่งมีเชื้อราเกิดขึ้นด้วย แต่เพราะเสียดายกับเงินที่เสียไป จึงไม่กล้าทิ้งมัน และกินต่อไป


เมื่อได้ยินคุณหลินเล่าว่าภรรยาและลูกก็มีวิถีชีวิตและอาการคล้ายกัน แพทย์จึงขอให้ทั้งสองคนมาตรวจที่โรงพยาบาลทันทีก่อนทราบผลว่าเป็นมะเร็งตับเช่นเดียวกัน ทั้งสามคนรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ดังนั้น พวกเขาต้องการแบ่งปันเรื่องราวของตน เพื่อเป็นสัญญาณเตือนภัยแก่ผู้อื่น อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดในการประหยัดเงิน ขาดความรู้ และมองว่าตู้เย็นเป็น “เครื่องเก็บอาหาร” นำความเจ็บป่วยมาสู่ร่างกายของคุณ

เปิดโพสต์สุดท้าย อั้ม พิชญ์สุธางค์ อดีตพีดีมิสแกรนด์ ก่อนจากไปกะทันหัน

  เปิดโพสต์สุดท้าย อั้ม พิชญ์สุธางค์ อดีตพีดีมิสแกรนด์ ก่อนจากไปกะทันหัน


เรียกได้ว่า เป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจ อย่าง อั้ม พิชญ์สุธางค์ ไขแสงทอง อายุ 38 ปี อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น โพสต์สุดท้าย ผ่านเฟซบุ๊ก Umm K Pichsuthang คือ ภาพใบแจ้งความ หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพหลอกลงทุน





โดย มีข้อความว่า ไม่คิดจริงๆ ว่า เรื่องนี้ จะเกิดกับตัวเอง ขอโทษที่คิดน้อยเกินไป ตอนนี้ เหมือนล้มทั้งเป็น เมื่อเช้าคิดจะไม่อยู่บนโลกด้วยซ้ำ ปัญหาต่างๆ มันเยอะมาก มันหมุนมันคิดไม่ตก

หลังจากโพสต์นี้ เพจ Drama-addict ก็ได้เผยข่าวเศร้าต่อว่า เพื่อนๆ ของ จขพ ฝากมา ตอนนี้ จขพ เสียชีวิตแล้ว หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เขา เป็นช่างแต่งหน้า ที่มีชื่อเสียง แล้วตกเป็นเหยื่อแก๊งค์คอล จนมีหนี้สินล้นพ้นตัว และจบชีวิตตัวเอง

ทาง เพจยังได้ระบุเพิ่มอีกว่า เพื่อนของ เธอ ขอให้เจ้าหน้าที่ ดำเนินการเอาผิดกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวง เธอ และนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

เหตุการณ์นี้ ทำให้หลายคนรู้สึกเศร้าเสียใจ และเห็นถึงความเครียด ที่เกิดจากปัญหาทางการเงิน ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ขณะที่ สังคมต้องการให้ความยุติธรรมแก่ เธอ และดำเนินคดี กับ ผู้ที่ทำให้ชีวิตของ เธอ ไปถึงจุดจบ

ภาพ จาก Umm K Pichsuthang

เรียบเรียงโดย news.in.th