เอาจริง! ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด เคลื่อนไหวล่าสุด หลังกัมพูชา รุกล้ำอธิปไตย-วางกับระเบิด
วันที่ 22 ก.ค. 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอรายงานความคืบหน้าด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีกำลังพลของกองทัพไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 และมีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายกัมพูชา ดังนี้
1. ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นสำคัญว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่พบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขตอธิปไตยไทยนั้น เป็นชนิดที่มิได้มีใช้ในกองทัพไทย และพิสูจน์ทราบแล้วว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกวางขึ้นใหม่
2. มุ่งเน้นการขยายผลด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางของสื่อที่หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ เพจเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ ซึ่งสำนักข่าวต่างๆ ได้มีการนำเสนอและขยายผลอย่างต่อเนื่อง
3. ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้ดำเนินการส่งแถลงการณ์ฯ ให้กับหน่วยงาน/องค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อรับทราบข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง จำนวน 10 หน่วยงาน ได้แก่
- เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย
- เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิส ประจำประเทศไทย
- เอกอัครราชทูตอาร์เซอร์ไบจาน ประจำประเทศไทย
- โครงการวิจัยและพัฒนาการเก็บกู้ ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (The Humanitarian Demining Research and Development: HD R&D)
- กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (U.S. Marine Corps Forces, Pacific: MARFORPAC)
- ศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมแห่งนครเจนีวา (The Geneva International Center for Humanitarian Demining: GICHD)
- คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (Joint United States Military Advisory Group Thailand: JUSMAG THAI)
- มูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมโกลเด้นเวสท์ (Golden West Humanitarian Foundation: GWHF)
- ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Mine Action Center: ARMAC)
- และคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา
4. ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงตอบโต้ กรณีฝ่ายกัมพูชานำเสนอภาพข่าวและคลิปวิดีโอ กล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้วางทุ่นระเบิดใหม่เพิ่มเติม บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ ในเพจเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ และสำนักข่าวต่างๆ