อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ สุดทน ชี้แจงความจริง หลังโดนมองเลี้ยงเด็กไว้ทำสามี

 อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ สุดทน ชี้แจงความจริง หลังโดนมองเลี้ยงเด็กไว้ทำสามี



ตี่ ทิศนา หรือ ตี่ กระเทียม เจ้าของร้านอาหารดัง กระเทียม ซึ่งเคยมีผลงานวงการบันเทิงหลายๆเรื่อง ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ชี้แจงด้วยความจริง หลังโดนคนมองบัดสีว่าเลี้ยงเด็กไว้ทำสามี พร้อมโพสต์ภาพกับเด็กน้อยที่เลี้ยงมาจนโตเป็นหนุ่ม แต่กลับมีคนมองด้วยจิตอกุศล ผ่านอินสตาแกรม teekratiam ว่า ต้องขอพูดนิดนึ่งในสิ่งที่ได้ยินมาตลอด ขอชี้แจงด้วยใจที่มั่นคง





ฉันมีโอกาสได้เลี้ยงเด็กกำพร้าคนหนึ่งตั้งแต่หนึ่งขวบ เพราะพ่อของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และแม่ของเขาซึ่งเป็นแม่บ้านอยู่กับฉัน จำเป็นต้องทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในบ้าน ฉันเลี้ยงดูเด็กคนนี้ด้วยเมตตา ไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนใดๆ สิ่งที่ได้คือความอบอุ่นใจ ความไม่โดดเดี่ยว และความหวังว่าจะสามารถช่วยสร้างคนดีให้กับสังคมอีกหนึ่งคน


ฉันรู้ว่าในสังคมนี้ยังมีคนที่คิดลามกหรือมองสิ่งบริสุทธิ์ด้วยจิตใจต่ำทราม ถึงขนาดเอ่ยคำบัดสีว่า เลี้ยงไว้เอาเป็นผัว ซึ่งเป็นคำที่เต็มไปด้วยอกุศล ไร้จรรยาบรรณ และสะท้อนจิตใจที่บิดเบี้ยว ฉันขอบอกตรงนี้ว่า ฉันเป็นคนธรรมดา แต่ยึดมั่นในความดี มีศรัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และพร่ำสอนสิ่งนั้นกับเด็กผู้นี้เสมอ






ฉันไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องการคำสรรเสริญ แค่มีความสุขที่ได้เลี้ยงดูคนหนึ่งคนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ พอแล้ว คนที่มองความเมตตาเป็นความบัดสี นั่นคือความเศร้าของใจเขาเอง ไม่ใช่ของฉัน ข้อความของคุณนั้นมีความจริงใจ ลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยความเมตตา เป็นคำพูดจากคนที่ได้ทำ มากกว่า พูด


และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการดูแลเด็กคนหนึ่งด้วยใจสะอาดบริสุทธิ์ แต่เพราะสังคมบางส่วนยังมีใจสกปรก มองเรื่องดีงามด้วยแว่นตาของความระแวงหรืออคติ จึงอาจทำให้เกิดถ้อยคำหรือความคิดที่บิดเบี้ยวจากความเป็นจริง ซึ่งคุณได้ตอบกลับอย่างมีหลักการและมั่นคงในจิตใจที่ตั้งมั่นในธรรมะ




ประกาศด่วน!! ชนินทร์ ลาออก สส. เพื่อไทย

 

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 มีรายงานว่า นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ได้มีการส่งเอกสารลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยแล้ว โดยเตรียมเข้ามารับตำแหน่งเลขานุการ รมว.มหาดไทย เพื่อช่วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในการผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้สำเร็จ


ทั้งนี้ นายชนินทร์ เป็นอีกหนึ่งคนการเมืองรุ่นใหม่ที่ต้องจับตามอง และจัดเป็นอีกหนึ่งสายตรงข้างกายนายภูมิธรรม ที่ได้รับความไว้ใจในการปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง (ของรองนายกภูมิธรรม เวชยชัย) มาก่อน ในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ


ก่อนได้เลื่อนลำดับปาร์ตี้ลิสต์เป็น ส.ส.ในเวลาต่อมา เข้าใจกลไกทั้งงานบริหารและงานนิติบัญญัติ การออกมารับตำแหน่งเลขาฯ รมว.มท.ในคราวนี้ จึงเชื่อได้ว่าจะสามารถทำงานเข้าขากับ รมว.มหาดไทย และเสริมในส่วนงานวิชาการและงานประสานจัดการได้อย่างรวดเร็ว


ในวันที่ 23 ก.ค.จะมีผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยได้รับการเลื่อนลำดับมาเป็น ส.ส.พร้อมกัน 2 ตำแหน่ง ได่แก่ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย และ นายธนพงศ์ ธนเดชากุล ในลำดับที่ 39 และ 40





ด่วน! เวียดนามเร่งอพยพประชาชน หนีไต้ฝุ่นวิภา

 ด่วน! เวียดนามเร่งอพยพประชาชน หนีไต้ฝุ่นวิภา


วันที่ 22 กรกฎาคม 68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าที่ฮานอย ทางการท้องถิ่นในหลายจังหวัดทางตอนเหนือของเวียดนามได้เร่งดำเนินมาตรการรับมือพายุไต้ฝุ่นวิภา ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 6 ของปีนี้ หลังจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามคาดการณ์ว่า พายุจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนิงห์บิงห์ในวันนี้ (อังคาร)


จังหวัดที่อยู่ในแนวพายุ เช่น นิงห์บิงห์ กว๋างนิงห์ และฮึงเอียน ได้ประกาศเตือนภัยและเริ่มดำเนินการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสูง รวมถึงมีการสั่งระงับการเดินเรือโดยสารและเรือประมงทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย


ผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ระบุว่า ทางโรงแรมได้หยุดให้บริการลูกค้าตั้งแต่เมื่อวานนี้ตามคำสั่งของทางการ และจะปิดให้บริการจนกว่าพายุจะพ้นไป


ด้านนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากกรุงฮานอย เปิดเผยว่า แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพายุลูกนี้จะรุนแรงเพียงใด แต่เพื่อความปลอดภัย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างพยายามเดินทางกลับบ้านโดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและดูแลทรัพย์สินของตนเอง


ทางการเวียดนามยังคงติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นวิภาอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด


กระแต อาร์สยาม เผยโดนโกง 100 ล้าน ช้ำหนักคนแห่ยืมเงินอีก

 เรียกได้ว่า หลายคนคงร้จักกันดี กับ นักร้องสาว กระแต อาร์สยาม หรือ แตร บุญยะเลี้ยง ล่าสุด เธอ ออกมาโพสต์ข้อความเปิดใจ ถึงการโดนโกงรวมกว่า 100 ล้าน พร้อมเผยความรู้สึกที่ไม่คาดคิดว่า คนที่เธอช่วยเหลือกลับหลอกลวงเธอไป ผ่านเฟซบุ๊ก KT KRATAE


โดย มีข้อความว่า แบกมาทั้งชีวิต คิดแล้วนอย พอเห็นยอดขายเดือนละร้อยล้าน คนก็แห่มาขอมายืม แต่ใครจะรู้ กว่าจะได้มามันเหนื่อยมาก แถมยังโดนโกงโดนหลอก รวมเป็น 100 กว่าล้าน เพราะความใจดีของตัวเองแท้ๆ




ข้อความนี้ ทำเอาผู้ที่เคยยืมเงิน กระแต สะดุ้งไปตามๆ กัน ขณะที่ ผู้ที่โกง เธอ คงไม่สบายใจ เมื่อเห็น เธอ ตั้งใจสู้ และไม่ยอมถอยง่ายๆ


สุดท้าย เธอ ได้เผยถึงความยากลำบาก ที่ต้องเจอในการสร้างธุรกิจ และความสำเร็จในวงการบันเทิง ซึ่งย้ำว่า ไม่ได้โชคดีเหมือนที่หลายคนมอง และการโดนโกง ก็เป็นหนึ่งในบทเรียนที่ เธอ ต้องเผชิญ


ถึงแม้ เธอ จะเจอกับปัญหาหนัก แต่ เธอ ก็ยังมีกำลังใจ ที่จะต่อสู้ และเธอยังคงเชื่อในความสำเร็จ ที่ควรจะได้รับ จากความพยายามของตัวเอง แม้จะต้องแลกมาด้วยการโดนโกงครั้งนี้ก็ตาม



ภาพ จาก KT KRATAE


เรียบเรียงโดย news.in.th


แม่น้องเมย เปิดใจทั้งน้ำตา หลังรู้คำพิพากษา สู้มา 8 ปี โดนข่มขู่สารพัด ใครจะมาช่วยก็ถูกขัดขวาง เผยรุ่นพี่ไม่เคยมาขอโทษ

 จากรณี หลังศาลทหารชั้นฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ ลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี กับรุ่นพี่ที่ลงโทษ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ชี้จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกาย แต่เห็นว่าด้วยอายุจำเลย ไม่เคยได้รับโทษ การจะลงโทษจำเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไป จะเป็นประโยชน์มากกว่า


หลังฟังคำพิพากษาศาลเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว นางสุกัลยา ตัญกาญจน์ แม่ของน้องเมย กล่าวว่า ศาลทหารชั้นฎีกายืนคำพิพากษาตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยได้รับโทษ 6 เดือน แต่รอลงอาญา 2 ปี เห็นว่าจำเลยยังสามารถทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้ และถ้าลงโทษจะทำให้ออกมา ทำให้ไปประกอบสัมมาชีพยาก จึงให้โอกาส ทางครอบครัวไม่ได้ขัดเรื่องการรับโทษของอีกฝ่าย แต่มีคำถามที่บอกว่า จำเลยทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ หากลูกของตนยังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ไหม แต่ลูกของเราไม่มีโอกาส

หากเป็นนักเรียน หรือบุคคลธรรมดา เราก็พอเข้าใจได้ แต่นี่เป็นนักเรียนบังคับบัญชา เหมือนเป็นผู้ที่ถือกฎหมายไว้ในมือ แต่ทำผิดซะเอง จึงเกิดคำถามว่าต่อไปจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้มากขนาดไหน แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไรว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำเรื่องแบบนี้ จะไปปฎิบัติหน้าที่ เป็นคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ ครอบครัวไม่เชื่อ ตั้งแต่เกิดเรื่อง อีกฝ่ายไม่เคยมาขอโทษเลย ครอบครัวของเราเดินทางขึ้นศาลอย่างสง่าผ่าเผย แต่จำเลยที่เป็นคนกล่าวอ้างว่า น้องเมยทำผิด กลับก้มหน้าก้มตาขึ้นศาล หากเขาไม่ผิด ทำไมต้องอายอยากฝากไปถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้พิจารณาถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ด้วย


นางสุกัลยา กล่าวต่อว่า ครอบครัวของเราเดินทางต่อสู้มาตลอด 8 ปี เจอเหตุการณ์มากมาย ทั้งการข่มขู่สารพัด คนที่จะมาเป็นพยานให้ ก็ไม่สามารถมาเป็นให้ได้ มีตำรวจนายหนึ่ง บอกว่า คุณรู้มั้ยว่าคดีของลูกคุณ มันเปลืองงบประมาณไปเท่าไหร่ ส่วนตำรวจอีกท่านเรียกครอบครัวไปดูผลการชันสูตรของลูกชาย รู้รายละเอียดการเสียชีวิตหมด แต่สุดท้ายสำนวนพลิกเป็นอีกแบบนึง โดยตำรวจเจ้าของสำนวนพูดว่า ลูกผมยังเล็ก ผมยังไม่อยากตาย



ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราไม่อยากทำให้ครอบครัวของคนอื่นเดือดร้อนเลย ใครที่เข้ามาคุยกับครอบครัวเรา จะโดนแบน จะมีโทรศัพท์โทรข่มขู่ว่า -ึงอย่ายุ่ง คนที่อยากให้การก็มาไม่ได้ ครอบครัวจึงไม่สามารถไปหาพยานหลักฐานที่ไหนได้เลย เราสู้มาตลอด แม้มีคนบอกว่า สู้ไปก็แพ้ แต่ที่ครอบครัวสู้มาถึงวันนี้ ไม่ได้ต้องการแพ้ชนะ แต่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชายเท่านั้น